แอล รอน ฮับบาร์ด (L. Ron Hubbard) เกิดที่เมืองทิลเดน รัฐเนบราสก้า เมื่อวันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2454 เส้นทางการค้นพบ และอุทิศตนเพื่อเพื่อนมนุษย์ของเขาเริ่มขึ้นตั้งแต่วัยเยาว์ รอนบันทึกเกี่ยวกับสมัยเด็กของเขาว่า “ผมอยากเห็นทุกคนมีความสุข และไม่อาจเข้าใจได้ว่าทำไมคนเหล่านั้นจึงไม่มีความสุข” การเป็นลูกชายของผู้บัญชาการทหารเรือทำให้เขาเป็นนักเดินทางที่ช่ำชองตั้งแต่อายุได้ 8 ขวบ และเมื่ออายุได้ 19 ปี เขาก็ได้เดินทางไปแล้วทั่วโลก
รอนเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัย จอร์จ วอชิงตัน ในปี พ.ศ. 2472 ได้เรียนวิชาคณิตศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ ซึ่งกลายเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับงานวิจัยอันต่อเนื่องในเวลาต่อมา เพื่อจะหาทุนในการวิจัย รอนจึงเริ่มงานเป็นนักเขียนตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ. 2473 และไม่นานหลังจากนั้น เขากลายเป็นหนึ่งในบรรดานักเขียนนิยายที่มีคนอ่านมากที่สุด อย่างไรก็ตาม รอนไม่เคยทิ้งจุดมุ่งหมายสำคัญของเขา เขายังคงทำการวิจัยด้วยการออกเดินทางและค้นคว้าอย่างขะมักขเม้นต่อไปเรื่อยๆ
เมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่สอง รอนเข้าเป็นทหารในกองทัพเรือของสหรัฐอเมริกา ดำรงตำแหน่งร้อยโท และเป็นหัวหน้าหน่วยป้องกันเรือดำน้ำข้าศึก เขาตาบอดเป็นบางส่วนและขาพิการจากการได้รับการบาดเจ็บในการสู้รบ เขาถูกวินิจฉัยว่าเป็นคนพิการตลอดชีวิตในปี พ.ศ. 2488 แต่ด้วยการประยุกต์ใช้ทฤษฎีเกี่ยวกับจิตใจที่เขาคิดค้นขึ้น เขาสามารถช่วยรักษาเพื่อนทหารให้หายได้ และตัวเขาเองก็กลับมามีสุขภาพดีดังเดิม
หลังจากทุ่มเทเวลาวิจัยอย่างเต็มที่อีก 5 ปี การค้นพบของรอนก็ปรากฏแก่สายตาชาวโลกในหนังสือ “ไดอะเนติกส์: วิทยศาสตร์สมัยใหม่เกี่ยวกับสุขภาพจิต” ในฐานะคู่มือเล่มแรกเกี่ยวกับจิตใจมนุษย์ที่เขียนด้วยถ้อยคำธรรมดาเพื่อให้ผู้คนทั่วไปสามารถอ่านและเข้าใจได้ และกลายเป็นที่นิยมอย่างมากในเวลาต่อมา “ไดอะเนติกส์” เปิดยุคใหม่ให้กับความหวังของมนุษยชาติและได้พารอนก้าวเข้าสู่ช่วงใหม่ของชีวิต อย่างไรก็ตาม รอนยังคงสานต่อการวิจัยของเขาต่อไปอีก และในขณะที่ได้มีการค้นพบสิ่งต่างๆ มากมาย ปลาย พ.ศ. 2494 ไซแอนโทโลยี ปรัชญาศาสนาที่มุ่งเน้นด้านการประยุกต์ใช้ก็ได้เกิดขึ้น
ในปี พ.ศ. 2516 แอล รอน ฮับบาร์ด เดินทางไปที่กรุงนิวยอร์กเพื่อทำการศึกษาทางด้านสังคมวิทยา เขาพบกับสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างน่าใจหาย นิวยอร์กเลวร้ายลงอย่างมาก ผิดกับเมืองที่เขาจำได้เมื่อหลายปีก่อน รอนเล็งเห็นว่าสังคมกำลังเดินหน้าไปสู่สังคมที่ไร้ศีลธรรม ใช้ความรุนแรงอย่างเกมกีฬา และท้ายที่สุดก็คือ การปกครองด้วยผู้ก่อการร้ายในคราบนักการเมือง รอนเห็นถึงความจำเป็นในการเร่งช่วยเหลือผู้คน และสร้างอนาคตที่ดีขึ้น เขาจึงได้ก่อตั้งโครงการระดับรากหญ้า ที่จะช่วยปลูกฝังค่านิยมอันดีงามกลับสู่สังคม และหยุดยั้งความเสื่อมทรามนั้น นั่นเองคือที่มาของโครงการอาสาสมัครไซแอนโทโลยี
แอล รอน ฮับบาร์ดจากโลกนี้ไปในวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2529 แต่การจากไปของเขาไม่ใช่จุดจบ เพราะมีคนอ่านหนังสือของเขากว่าร้อยล้านเล่มอยู่ทั่วโลกและมีคนอีกหลายล้านคนที่ใช้กำลังใช้หลักการจากไซแอนโทโลยี เพื่อนำพาชีวิตให้มีความสุข ความสมบูรณ์มากขึ้น สำหรับพวกเขาเหล่านั้น แอล รอน ฮับบาร์ด คือเพื่อนผู้ยิ่งใหญ่กว่าเพื่อนคนใด
ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับแอล รอน ฮับบาร์ด ได้ที่ L. Ron Hubbard.Org
รอนเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัย จอร์จ วอชิงตัน ในปี พ.ศ. 2472 ได้เรียนวิชาคณิตศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ ซึ่งกลายเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับงานวิจัยอันต่อเนื่องในเวลาต่อมา เพื่อจะหาทุนในการวิจัย รอนจึงเริ่มงานเป็นนักเขียนตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ. 2473 และไม่นานหลังจากนั้น เขากลายเป็นหนึ่งในบรรดานักเขียนนิยายที่มีคนอ่านมากที่สุด อย่างไรก็ตาม รอนไม่เคยทิ้งจุดมุ่งหมายสำคัญของเขา เขายังคงทำการวิจัยด้วยการออกเดินทางและค้นคว้าอย่างขะมักขเม้นต่อไปเรื่อยๆ
เมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่สอง รอนเข้าเป็นทหารในกองทัพเรือของสหรัฐอเมริกา ดำรงตำแหน่งร้อยโท และเป็นหัวหน้าหน่วยป้องกันเรือดำน้ำข้าศึก เขาตาบอดเป็นบางส่วนและขาพิการจากการได้รับการบาดเจ็บในการสู้รบ เขาถูกวินิจฉัยว่าเป็นคนพิการตลอดชีวิตในปี พ.ศ. 2488 แต่ด้วยการประยุกต์ใช้ทฤษฎีเกี่ยวกับจิตใจที่เขาคิดค้นขึ้น เขาสามารถช่วยรักษาเพื่อนทหารให้หายได้ และตัวเขาเองก็กลับมามีสุขภาพดีดังเดิม
หลังจากทุ่มเทเวลาวิจัยอย่างเต็มที่อีก 5 ปี การค้นพบของรอนก็ปรากฏแก่สายตาชาวโลกในหนังสือ “ไดอะเนติกส์: วิทยศาสตร์สมัยใหม่เกี่ยวกับสุขภาพจิต” ในฐานะคู่มือเล่มแรกเกี่ยวกับจิตใจมนุษย์ที่เขียนด้วยถ้อยคำธรรมดาเพื่อให้ผู้คนทั่วไปสามารถอ่านและเข้าใจได้ และกลายเป็นที่นิยมอย่างมากในเวลาต่อมา “ไดอะเนติกส์” เปิดยุคใหม่ให้กับความหวังของมนุษยชาติและได้พารอนก้าวเข้าสู่ช่วงใหม่ของชีวิต อย่างไรก็ตาม รอนยังคงสานต่อการวิจัยของเขาต่อไปอีก และในขณะที่ได้มีการค้นพบสิ่งต่างๆ มากมาย ปลาย พ.ศ. 2494 ไซแอนโทโลยี ปรัชญาศาสนาที่มุ่งเน้นด้านการประยุกต์ใช้ก็ได้เกิดขึ้น
ในปี พ.ศ. 2516 แอล รอน ฮับบาร์ด เดินทางไปที่กรุงนิวยอร์กเพื่อทำการศึกษาทางด้านสังคมวิทยา เขาพบกับสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างน่าใจหาย นิวยอร์กเลวร้ายลงอย่างมาก ผิดกับเมืองที่เขาจำได้เมื่อหลายปีก่อน รอนเล็งเห็นว่าสังคมกำลังเดินหน้าไปสู่สังคมที่ไร้ศีลธรรม ใช้ความรุนแรงอย่างเกมกีฬา และท้ายที่สุดก็คือ การปกครองด้วยผู้ก่อการร้ายในคราบนักการเมือง รอนเห็นถึงความจำเป็นในการเร่งช่วยเหลือผู้คน และสร้างอนาคตที่ดีขึ้น เขาจึงได้ก่อตั้งโครงการระดับรากหญ้า ที่จะช่วยปลูกฝังค่านิยมอันดีงามกลับสู่สังคม และหยุดยั้งความเสื่อมทรามนั้น นั่นเองคือที่มาของโครงการอาสาสมัครไซแอนโทโลยี
แอล รอน ฮับบาร์ดจากโลกนี้ไปในวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2529 แต่การจากไปของเขาไม่ใช่จุดจบ เพราะมีคนอ่านหนังสือของเขากว่าร้อยล้านเล่มอยู่ทั่วโลกและมีคนอีกหลายล้านคนที่ใช้กำลังใช้หลักการจากไซแอนโทโลยี เพื่อนำพาชีวิตให้มีความสุข ความสมบูรณ์มากขึ้น สำหรับพวกเขาเหล่านั้น แอล รอน ฮับบาร์ด คือเพื่อนผู้ยิ่งใหญ่กว่าเพื่อนคนใด
ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับแอล รอน ฮับบาร์ด ได้ที่ L. Ron Hubbard.Org